นายปรีชา ภูขำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ในฐานะประธานกรรมการบริษัทเคทีบี ลิสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่าเคทีบี ลิสซิ่งจะเริ่มรุกตลาดลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อีกครั้งหลังจากที่ชะลอการทำตลาดไป 2 ปีเนื่องจากสภาพตลาดไม่ดีหากปล่อยสินเชื่อไปจะเกิดปัญหาหนี้เสีย โดยปัจจุบันเห็นสัญญาณความต้องการสินเชื่อประเภทดังกล่าวมากขึ้นและเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้การหมุนเวียนของเงิน
คณะกรรมการบริษัทจึงได้อนุมัติออกแคมเปญการตลาดปล่อยกู้ให้กับข้าราชการ(ขรก.)ตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกองขึ้นไป และพนักงานรัฐวิสาหกิจ(รสก.)ตั้งแต่ผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไปใช้ผลิตภัณฑ์การเงินของบริษัททุกประเภทปล่อยกู้วงเงิน 100 % ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน และอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด
เสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.25% ดาวน์25% มีระยะเวลาการผ่อนไม่เกิน 48 งวด โดยคาดในช่วง 6-12 เดือนหลังจากนี้จะมียอดสินเชื่อดังกล่าวเติบโต 1,000-2,000 ล้านบาท เพราะว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีฐานะที่มั่นคงและเป็นผู้บริหารระดับกลางขึ้นไปที่มีความสามารถอยู่แล้ว
"ลูกค้าไม่ดีจริงเราก็จะไม่ปล่อย แต่เราจะเน้นลูกค้ากลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ เพราะว่ายังไงก็ไม่ตกงาน ส่วนลูกค้าอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นฐานลูกค้าเดิมที่เรารู้ความสามารถในการชำระหนี้" นายปรีชา กล่าว
สำหรับยอดการอนุมัติสินเชื่อของบริษัทตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอนุมัติสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 2,000-3,000 ล้านบาทคาดว่าสินปีนี้จะปล่อยได้ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีบริษัทมีกำไร 95 ล้านบาทเชื่อว่าทั้งปีนี้จะมีกำไรเพิ่มเป็น200 ล้านบาทจากปี 2551 ที่กำไร 64 ล้านบาทสาเหตุที่กำไรเพิ่มเพราะมีการบริหารสินเชื่อ ควบคุมหนี้เสียและค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า
คณะกรรมการบริษัทจึงได้อนุมัติออกแคมเปญการตลาดปล่อยกู้ให้กับข้าราชการ(ขรก.)ตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกองขึ้นไป และพนักงานรัฐวิสาหกิจ(รสก.)ตั้งแต่ผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไปใช้ผลิตภัณฑ์การเงินของบริษัททุกประเภทปล่อยกู้วงเงิน 100 % ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน และอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด
เสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2.25% ดาวน์25% มีระยะเวลาการผ่อนไม่เกิน 48 งวด โดยคาดในช่วง 6-12 เดือนหลังจากนี้จะมียอดสินเชื่อดังกล่าวเติบโต 1,000-2,000 ล้านบาท เพราะว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีฐานะที่มั่นคงและเป็นผู้บริหารระดับกลางขึ้นไปที่มีความสามารถอยู่แล้ว
"ลูกค้าไม่ดีจริงเราก็จะไม่ปล่อย แต่เราจะเน้นลูกค้ากลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ เพราะว่ายังไงก็ไม่ตกงาน ส่วนลูกค้าอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นฐานลูกค้าเดิมที่เรารู้ความสามารถในการชำระหนี้" นายปรีชา กล่าว
สำหรับยอดการอนุมัติสินเชื่อของบริษัทตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอนุมัติสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 2,000-3,000 ล้านบาทคาดว่าสินปีนี้จะปล่อยได้ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีบริษัทมีกำไร 95 ล้านบาทเชื่อว่าทั้งปีนี้จะมีกำไรเพิ่มเป็น200 ล้านบาทจากปี 2551 ที่กำไร 64 ล้านบาทสาเหตุที่กำไรเพิ่มเพราะมีการบริหารสินเชื่อ ควบคุมหนี้เสียและค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Tidak ada komentar:
Posting Komentar