บริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด แนะเคล็ดลับเลือกซื้ออะไหล่และถนอมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจด้วยตนเอง หวังลดสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนน ผู้ขับขี่ได้ประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมเพิ่มอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
นายพิเชฐ ตังคไชยนันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มสิทธิผล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้บริโภคและบริษัทผู้ผลิตรถมายาวนานกว่า 90 ปี เปิดเผยว่า “การผลิตรถ แต่ละคันจะต้องมีชิ้นส่วนอะไหล่ประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก การเลือกซื้ออะไหล่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ควรเลือกซื้ออะไหล่ที่ดีมีคุณภาพ เพื่อลดความสิ้นเปลืองและเสริมสร้างสมรรถนะในการขับขี่ ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ความปลอดภัยสูง และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
บริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด เล็งเห็นว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสภาพรถของตนเองเป็นอย่างดี เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่มีสถิติสูงขึ้นเป็นลำดับ จึงขอแนะนำเคล็ดลับการสังเกตเลือกซื้ออะไหล่รถที่ได้คุณภาพ รวมถึงการดูแลรักษารถในเบื้องต้นด้วยตนเอง ดังนี้
1.ยางรถ เลือกขนาดและชนิดของยางให้เหมาะสมกับขนาดของรถ หมั่นตรวจเช็คความดันลมยางในให้อยู่ในค่ามาตรฐานในขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือก่อนการใช้งานเสมอ และตรวจลมยางใน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อเดินทางไกลควรสูบลมเพิ่ม 1-2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป หรือขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในยางสูงและหลีกเลี่ยง การเบรกกะทันหัน หรือการออกตัวรุนแรง ซึ่งจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว
2.โซ่และสเตอร์ ควรดูแลตรวจสอบความตึงหย่อนของโซ่ทุกๆ สัปดาห์ อีกทั้งไม่ควรตั้งโซ่ ให้ตึงเกินไป เพราะจะทำให้ทั้งโซ่และสเตอร์สึกหรอมาก การบำรุงรักษาโซ่ควรหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์เป็นประจำ กรณีที่มีคราบสกปรกมากควรใช้แปรงล้างด้วยน้ำมันโซล่าหรือเบนซิน โซ่และสเตอร์มีอายุการใช้งานประมาณ 10,000 กิโลเมตรเมื่อถึงระยะเวลาเปลี่ยนควรเปลี่ยนทั้งชุด
3.หลอดไฟ ควรเลือกหลอดไฟของแท้ที่ได้มาตรฐานรับรองจากหน่วยงาน เช่น มาตรฐานยุโรป (ECE) มาตรฐานญี่ปุ่น (JIS) เป็นต้น ไม่ควรใช้หลอดไฟวัตต์สูงเกินกว่ามาตรฐานของรถแต่ละรุ่น อีกทั้งควรพกหลอดไฟสำรองติดรถไว้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุควร “เปิดไฟ ใส่หมวกกันน็อค” ทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
4. น้ำมันหล่อลื่น ควรเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นแบบ 4 จังหวะ หรือออโต้ลูป2 จังหวะ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานรับรองโดยสถาบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเลือกเบอร์ความหนืดให้เหมาะกับชนิดของเครื่องยนต์และสภาพการใช้งานของรถ สังเกตว่าน้ำมันไม่เป็นตะกอนหรือยางเหนียว รวมทั้งหมั่นตรวจเช็คให้ระดับอยู่ในเกณฑ์เพียงพอ หรือเปลี่ยนถ่ายตามระยะกำหนดการใช้งาน
5. หัวเทียน ควรเลือกเขี้ยวหัวเทียนที่มีรูปร่องตัวยู เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการสร้างประกายไฟสำหรับจุดระเบิด ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เกิดการเผาไหม้ที่หมดจด ปราศจากคราบเขม่าอันเป็นสาเหตุให้หัวเทียนบอด กินน้ำมัน เครื่องยนต์สะดุดและสตาร์ทติดยาก ควรหมั่นสังเกตตรวจดูสภาพหัวเทียน โดยสภาพปกติจะมีคราบสีเทาหรือสีน้ำตาลที่ปลายฉนวน
6.สายพานรถออโตเมติก ควรเลือกที่สามารถโค้งงอตัวได้ดีซึ่งช่วยระบายความร้อนและยืดอายุการใช้งาน เนื้อยางต้องทำจากยางสังเคราะห์ เพราะสามารถทนต่อแรงเสียดสี ช่วยให้ส่งกำลังได้ดี หลีกเลี่ยงสายพานไม่ให้ถูกน้ำ น้ำมัน สารเคมี สี หรือสารแปลกปลอมเพราะทำให้สายพานเกิดการ ลื่นไถลขณะใช้งานได้ นอกจากนี้ต้องหมั่นตรวจสอบสภาพสายพานตามระยะทางที่ผู้ผลิตกำหนด
เพิ่มเติม http://www.newswit.com
นายพิเชฐ ตังคไชยนันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มสิทธิผล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้บริโภคและบริษัทผู้ผลิตรถมายาวนานกว่า 90 ปี เปิดเผยว่า “การผลิตรถ แต่ละคันจะต้องมีชิ้นส่วนอะไหล่ประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก การเลือกซื้ออะไหล่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ควรเลือกซื้ออะไหล่ที่ดีมีคุณภาพ เพื่อลดความสิ้นเปลืองและเสริมสร้างสมรรถนะในการขับขี่ ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ความปลอดภัยสูง และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
บริษัท คลินิกรถเครื่อง จำกัด เล็งเห็นว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสภาพรถของตนเองเป็นอย่างดี เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่มีสถิติสูงขึ้นเป็นลำดับ จึงขอแนะนำเคล็ดลับการสังเกตเลือกซื้ออะไหล่รถที่ได้คุณภาพ รวมถึงการดูแลรักษารถในเบื้องต้นด้วยตนเอง ดังนี้
1.ยางรถ เลือกขนาดและชนิดของยางให้เหมาะสมกับขนาดของรถ หมั่นตรวจเช็คความดันลมยางในให้อยู่ในค่ามาตรฐานในขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือก่อนการใช้งานเสมอ และตรวจลมยางใน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อเดินทางไกลควรสูบลมเพิ่ม 1-2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป หรือขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในยางสูงและหลีกเลี่ยง การเบรกกะทันหัน หรือการออกตัวรุนแรง ซึ่งจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว
2.โซ่และสเตอร์ ควรดูแลตรวจสอบความตึงหย่อนของโซ่ทุกๆ สัปดาห์ อีกทั้งไม่ควรตั้งโซ่ ให้ตึงเกินไป เพราะจะทำให้ทั้งโซ่และสเตอร์สึกหรอมาก การบำรุงรักษาโซ่ควรหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์เป็นประจำ กรณีที่มีคราบสกปรกมากควรใช้แปรงล้างด้วยน้ำมันโซล่าหรือเบนซิน โซ่และสเตอร์มีอายุการใช้งานประมาณ 10,000 กิโลเมตรเมื่อถึงระยะเวลาเปลี่ยนควรเปลี่ยนทั้งชุด
3.หลอดไฟ ควรเลือกหลอดไฟของแท้ที่ได้มาตรฐานรับรองจากหน่วยงาน เช่น มาตรฐานยุโรป (ECE) มาตรฐานญี่ปุ่น (JIS) เป็นต้น ไม่ควรใช้หลอดไฟวัตต์สูงเกินกว่ามาตรฐานของรถแต่ละรุ่น อีกทั้งควรพกหลอดไฟสำรองติดรถไว้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุควร “เปิดไฟ ใส่หมวกกันน็อค” ทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
4. น้ำมันหล่อลื่น ควรเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นแบบ 4 จังหวะ หรือออโต้ลูป2 จังหวะ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานรับรองโดยสถาบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเลือกเบอร์ความหนืดให้เหมาะกับชนิดของเครื่องยนต์และสภาพการใช้งานของรถ สังเกตว่าน้ำมันไม่เป็นตะกอนหรือยางเหนียว รวมทั้งหมั่นตรวจเช็คให้ระดับอยู่ในเกณฑ์เพียงพอ หรือเปลี่ยนถ่ายตามระยะกำหนดการใช้งาน
5. หัวเทียน ควรเลือกเขี้ยวหัวเทียนที่มีรูปร่องตัวยู เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการสร้างประกายไฟสำหรับจุดระเบิด ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เกิดการเผาไหม้ที่หมดจด ปราศจากคราบเขม่าอันเป็นสาเหตุให้หัวเทียนบอด กินน้ำมัน เครื่องยนต์สะดุดและสตาร์ทติดยาก ควรหมั่นสังเกตตรวจดูสภาพหัวเทียน โดยสภาพปกติจะมีคราบสีเทาหรือสีน้ำตาลที่ปลายฉนวน
6.สายพานรถออโตเมติก ควรเลือกที่สามารถโค้งงอตัวได้ดีซึ่งช่วยระบายความร้อนและยืดอายุการใช้งาน เนื้อยางต้องทำจากยางสังเคราะห์ เพราะสามารถทนต่อแรงเสียดสี ช่วยให้ส่งกำลังได้ดี หลีกเลี่ยงสายพานไม่ให้ถูกน้ำ น้ำมัน สารเคมี สี หรือสารแปลกปลอมเพราะทำให้สายพานเกิดการ ลื่นไถลขณะใช้งานได้ นอกจากนี้ต้องหมั่นตรวจสอบสภาพสายพานตามระยะทางที่ผู้ผลิตกำหนด
เพิ่มเติม http://www.newswit.com
Tidak ada komentar:
Posting Komentar