จักรยานยนต์เดือน พ.ย.คึกคักรับเศรษฐกิจฟื้น ยอดขายทะยานกว่า 1.3 แสนคัน โตกว่าเดือนก่อน 9 % แต่รวมยอด 11 เดือนแรกยังติดลบ 13 % ฮอนด้ายังนำโด่ง ครองตลาดกว่า 66 %
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนพฤศจิกายน กลับมาคึกคักรับลมหนาวด้วยยอดจดทะเบียนรวมสูงถึง 130,264 คัน เติบโตขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 9% และยังมียอดรวมที่มากกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนถึง 4% โดยฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาด แรงสุดขีดด้วยอัตราครองตลาดที่ 68% เทียบเท่าจำนวน 88,900 คัน เติบโตสูงขึ้นถึง 15% จากเดือนก่อน และยังเติบโตกว่าเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 11% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถประเภท เอที หลังจากเปิดตัวฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ ได้เต็มกำลังมากขึ้น ส่งผลให้ยอดรวมรถ เอที ของฮอนด้าผงาดขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถออโตเมติกประเทศไทย ด้วยอัตราส่วนตลาดสูงถึง 51% ที่ 31,317 คัน
"จากสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่มีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการของภาครัฐบาลและภาคเอกชน ที่ออกมาช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการอุปโภคบริโภคของประชาชน ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อเริ่มฟื้นกลับคืนมา ส่งผลให้ตลาดเดือน พ.ย. กลับมาคึกคักด้วยยอดการขายที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถเอทีของฮอนด้าที่แรงสุดขีด หลังสามารถป้อนฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอได้เต็มกำลัง ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนฮอนด้า เอที โดยรวมพุ่งสูงขึ้นถึง 31,317 คัน ขึ้นเป็นผู้นำตลาดออโตเมติกประเทศไทยด้วยอัตราส่วนตลาด 51%"
ด้านรายงานตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์ทุกประเภทของตลาด เดือนพฤศจิกายน มีความคึกคักมากขึ้นด้วยปริมาณยอดจดทะเบียน 130,264 คัน โดยปริมาณยอดจดทะเบียนในเดือนนี้ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวด้วยปริมาณตัวเลข 63,240 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% ในขณะที่รถแบบ เอที มีปริมาณ 61,348 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47%, รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 2,968 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2%, รถแบบสปอร์ต 894 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 1,814 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1%
ทางด้านปริมาณยอดจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปี 2552 ถึงเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 1,388,189 คัน ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่รถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวครองความเป็นรถยอดนิยมตลอดกาล ด้วยปริมาณยอดจดทะเบียนที่มากถึง 683,809 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% ในขณะที่ค่ายฮอนด้าที่เป็นผู้นำตลาดนั้น มีอัตราครองตลาดในกลุ่มรถประเภทนี้ถึง 86% ส่วนรถประเภทอื่นๆ มีรายละเอียดยอดการจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤศจิกายน ดังนี้ คือ รถแบบ เอที มีปริมาณ 647,008 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47%, รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 33,736 คัน สัดส่วนตลาด 2%, รถแบบสปอร์ต 10,498 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 13,138 คัน สัดส่วนตลาด 1%
ในขณะที่หากแบ่งแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทของผู้ผลิต รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 915,172 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 66%, ยามาฮ่า 388,284 คัน อัตราครองตลาด 28%, ซูซูกิ 58,169 คัน อัตราครองตลาด 4%, คาวาซากิ 13,247 คัน อัตราครองตลาด 1%, เจอาร์ดี 1,499 คัน, แพล็ตตินั่ม 1,003 คัน, ไทเกอร์ 999 คัน และอื่นๆ 9,816 คัน
เพิ่มเติม http://www.thannews.th.com
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนพฤศจิกายน กลับมาคึกคักรับลมหนาวด้วยยอดจดทะเบียนรวมสูงถึง 130,264 คัน เติบโตขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 9% และยังมียอดรวมที่มากกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนถึง 4% โดยฮอนด้าในฐานะผู้นำตลาด แรงสุดขีดด้วยอัตราครองตลาดที่ 68% เทียบเท่าจำนวน 88,900 คัน เติบโตสูงขึ้นถึง 15% จากเดือนก่อน และยังเติบโตกว่าเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 11% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถประเภท เอที หลังจากเปิดตัวฮอนด้าสกู๊ปปี้ ไอ ได้เต็มกำลังมากขึ้น ส่งผลให้ยอดรวมรถ เอที ของฮอนด้าผงาดขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถออโตเมติกประเทศไทย ด้วยอัตราส่วนตลาดสูงถึง 51% ที่ 31,317 คัน
"จากสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่มีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการของภาครัฐบาลและภาคเอกชน ที่ออกมาช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการอุปโภคบริโภคของประชาชน ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อเริ่มฟื้นกลับคืนมา ส่งผลให้ตลาดเดือน พ.ย. กลับมาคึกคักด้วยยอดการขายที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถเอทีของฮอนด้าที่แรงสุดขีด หลังสามารถป้อนฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอได้เต็มกำลัง ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนฮอนด้า เอที โดยรวมพุ่งสูงขึ้นถึง 31,317 คัน ขึ้นเป็นผู้นำตลาดออโตเมติกประเทศไทยด้วยอัตราส่วนตลาด 51%"
ด้านรายงานตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์ทุกประเภทของตลาด เดือนพฤศจิกายน มีความคึกคักมากขึ้นด้วยปริมาณยอดจดทะเบียน 130,264 คัน โดยปริมาณยอดจดทะเบียนในเดือนนี้ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวด้วยปริมาณตัวเลข 63,240 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% ในขณะที่รถแบบ เอที มีปริมาณ 61,348 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47%, รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 2,968 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2%, รถแบบสปอร์ต 894 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 1,814 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1%
ทางด้านปริมาณยอดจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปี 2552 ถึงเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 1,388,189 คัน ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่รถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวครองความเป็นรถยอดนิยมตลอดกาล ด้วยปริมาณยอดจดทะเบียนที่มากถึง 683,809 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% ในขณะที่ค่ายฮอนด้าที่เป็นผู้นำตลาดนั้น มีอัตราครองตลาดในกลุ่มรถประเภทนี้ถึง 86% ส่วนรถประเภทอื่นๆ มีรายละเอียดยอดการจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤศจิกายน ดังนี้ คือ รถแบบ เอที มีปริมาณ 647,008 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47%, รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 33,736 คัน สัดส่วนตลาด 2%, รถแบบสปอร์ต 10,498 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 13,138 คัน สัดส่วนตลาด 1%
ในขณะที่หากแบ่งแยกเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทของผู้ผลิต รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 915,172 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 66%, ยามาฮ่า 388,284 คัน อัตราครองตลาด 28%, ซูซูกิ 58,169 คัน อัตราครองตลาด 4%, คาวาซากิ 13,247 คัน อัตราครองตลาด 1%, เจอาร์ดี 1,499 คัน, แพล็ตตินั่ม 1,003 คัน, ไทเกอร์ 999 คัน และอื่นๆ 9,816 คัน
เพิ่มเติม http://www.thannews.th.com
Tidak ada komentar:
Posting Komentar