จากการประเมินตัวเลขยอดขายในปีนี้ ที่ว่ากันว่ารถจักรยานยนต์จะมีความสามารถอยู่ในระดับแค่ ล้านกว่าคัน ทำให้ทุกค่ายต้องออกแรงกันอย่างหนัก และตลาดที่ลูกค้าให้การตอบรับมากที่สุด ยังคงเป็นตลาดครอบครัว ด้วยรูปลักษณ์รถจักรยานยนต์แบบย้อนยุค ก่อให้เกิดกระแส "เรโทฟีเวอร์"
ตลอดช่วงระยะเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดนี้กินส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 5 แสนคัน หรือเกือบ 40% ในตลาดออโตเมติก ดังนั้นใครมองข้ามตลาดนี้ "สอบตก" แน่นอน
ตลาดเรโทที่กำลังถูกจับตามอง เราคงต้องยกความดีทั้งหมดให้ผู้นำเทรนด์อย่าง "ยามาฮ่า" ที่กล้าตัดสินใจส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติก "ยามาฮ่าฟีโน" ที่ปล่อยรถรุ่นนี้ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนกันยายน 2549 จนทำให้ตอนนี้ ไม่ว่ายักษ์ใหญ่อย่าง ฮอนด้า หรือเบอร์สาม ซูซูกิ ก็พร้อมใจกันลงสนามนี้กันอย่างเต็มตัว
ย้อนหลังกลับไปนิด การสร้างกระแส "เรโทฟีเวอร์" ไปในกลุ่มลูกค้า แทบจะเรียกได้ว่ายามาฮ่าเขาทำได้โดนใจกันไป ทุกเพศ ทุกวัย ด้วยดีไซน์ของตัวรถออกแนวโมเดิร์นดีไซน์แบบย้อนยุค ส่งผลให้ ยามาฮ่าค่อยๆ ตีกินส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น เห็นได้จากสัดส่วนยอดขายของรถจักรยานยนต์ในกลุ่มเกียร์อัตโนมัติ จะพบว่ายามาฮ่ามีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 53% ตามมาด้วยฮอนด้า 44% และซูซูกิ 2% ส่งผลให้ยามาฮ่ากลายเป็นเจ้าตลาด และตีตื้นยอดขายรวมได้อย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่ง กรณีศึกษา แม้ว่าก่อนหน้านี้ ค่ายเบอร์หนึ่งอย่าง "ฮอนด้า" เองเคยออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดว่าไม่มีนโยบายเอารถ ประเภทนี้มาทำตลาดอย่างแน่นอน แต่ผลความสำเร็จของ "ยามาฮ่า" ทำให้ทั้ง "ฮอนด้า" และ "ซูซูกิ" ต้องขอเกาะกระแส "เรโท" ด้วย ข่าวแว่วว่าค่ายฮอนด้า ซุ่มศึกษาตลาดมานานพอสมควร แต่ช่วงที่ซุ่มศึกษา ก็ปล่อยให้ "ยามาฮ่า" กวาดยอดแบบผูกขาดไว้คนเดียวมาตลอด 3 ปี
ความร้อนแรงของ "เรโทฟีเวอร์" เดือดปุดๆ ขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันนี้ "ซูซูกิ" ขอส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติกแนวเรโทสไตล์อย่าง "เจลาโต้" ออกสู่ตลาด ด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์ที่ย้อนยุค ผสานกับความทันสมัย เก๋ไก๋ ของรถคูลๆ คันนี้ จะช่วยให้ยอดขายของซูซูกิที่อยู่ในช่วงขาลง ดีดกลับมียอดขายเปลี่ยนเป็นขาขึ้นกับเขาบ้าง
ภายใต้แนวคิดรถต้นแบบ 2 รุ่นมารวมกัน คือ "ซูซูกิเจลลี่" และ "ซูซูกิลาเต้" มาผสมไว้ด้วยกันจนออกมาเป็นรถ"เจลาโต้" คันนี้ ส่วนแผนการรุกตลาด ของ "เจลาโต้" นั้น ซูซูกิเตรียมจัดโรดโชว์ทั่วประเทศไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ โดยเริ่มต้นเดินสายจากกรุงเทพฯไปยังหาดใหญ่, เชียงใหม่, โคราช, พัทยา และปิดท้ายด้วยกรุงเทพฯ
งานครั้งนี้ ซูซูกิยังได้ส่ง "นิชคุณ" พรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดร่วมนำพาความสนุก ความสดใสของ "เจลาโต้" ไปให้ลูกค้าทั่วประเทศ ภายใต้เป้าหมายยอดขายที่ 5,000-6,000 คันต่อเดือน
จะเห็นได้ว่า ตลอดช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่าน ค่ายซูซูกิเองได้พยายามเดินหน้าสร้างแบรนด์และปรับปรุงโชว์รูมร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่จะผลักดันให้ยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดขยับเพิ่มอันดับขึ้น
ขณะที่ค่ายฮอนด้าก็เกาะกระแส "เรโทสไตล์" เช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็เริ่มมีการสร้างกระแสให้กับ "ฮอนด้าสกู๊ปปี้" กัน เห็นได้จากทีเซอร์ภาพยนตร์โฆษณาสั้นๆ ผ่าน หน้าจอ ขณะเดียวกันก็มีการสื่อสารให้เห็นถึงความเป็นมาของรถรุ่นใหม่ว่ามีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี 1992 ชนิด ที่เรียกว่า "ฮอนด้า" ขอออกตัวแบบแรง ชี้ให้เห็นชัดๆ ว่า "สกู๊ปปี้" คันนี้มิใช่ผู้ตามแต่อย่างใด เห็นได้จากพัฒนาการที่มีมาอย่างยาวนานนั่นเอง สำหรับ "สกู๊ปปี้" คันนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "โค้งมน น่ารัก สนุก" ไปกับระบบหัวฉีด PGM-FM กับความสนุก มันส์ รู้กัน ฟันยูไนเต็ด
ใส่กันแรงๆ แบบนี้...คงต้องติดตามกันต่อว่า ความเป็นเจ้าตลาดบวกกับการสร้างกระแสจุดพลุให้กับรถคันนี้ โดยถ่ายทอด ผ่านพรีเซ็นเตอร์ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" และ "แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา" พร้อมทั้งเตรียมเดินสายสร้าง กระแสผ่านเสียงเพลง ด้วยการเข้าไปเป็น ผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตที่มีศิลปินชื่อดัง อาทิ โมเดิร์นด็อก, บิ๊กแอส, ที-โบน ที่จะเดินสายไปยัง 4 จังหวัด 4 ภูมิภาค คือชะอำ, เชียงใหม่, เขาใหญ่ และกระบี่ เช่นกันจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
เมื่อ 3 ค่ายยักษ์ประกาศตัวพร้อมที่จะวิ่งสู้ฟัดกันใน "เซ็กเมนต์" นี้ แน่นอนเจ้าตลาดอย่าง "ยามาฮ่า" ก็คงต้องเตรียมไม้เด็ดรับน้องใหม่ทั้ง "ฮอนด้า" และ "ซูซูกิ" ไว้เป็นอย่างดี "ยามาฮ่า" คงจะอยู่นิ่งไม่ได้และโดยวิสัยของ "ยามาฮ่า" ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนร่วมกับกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าภาพการแข่งขันในสมรภูมิของรถจักรยานยนต์ "เรโทสไตล์" จะสนุกและขับเคี่ยวกันไม่น้อยไปกว่าสมรภูมิการแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวม
ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติ
ตลอดช่วงระยะเวลาเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดนี้กินส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 5 แสนคัน หรือเกือบ 40% ในตลาดออโตเมติก ดังนั้นใครมองข้ามตลาดนี้ "สอบตก" แน่นอน
ตลาดเรโทที่กำลังถูกจับตามอง เราคงต้องยกความดีทั้งหมดให้ผู้นำเทรนด์อย่าง "ยามาฮ่า" ที่กล้าตัดสินใจส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติก "ยามาฮ่าฟีโน" ที่ปล่อยรถรุ่นนี้ออกสู่ตลาดเมื่อเดือนกันยายน 2549 จนทำให้ตอนนี้ ไม่ว่ายักษ์ใหญ่อย่าง ฮอนด้า หรือเบอร์สาม ซูซูกิ ก็พร้อมใจกันลงสนามนี้กันอย่างเต็มตัว
ย้อนหลังกลับไปนิด การสร้างกระแส "เรโทฟีเวอร์" ไปในกลุ่มลูกค้า แทบจะเรียกได้ว่ายามาฮ่าเขาทำได้โดนใจกันไป ทุกเพศ ทุกวัย ด้วยดีไซน์ของตัวรถออกแนวโมเดิร์นดีไซน์แบบย้อนยุค ส่งผลให้ ยามาฮ่าค่อยๆ ตีกินส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น เห็นได้จากสัดส่วนยอดขายของรถจักรยานยนต์ในกลุ่มเกียร์อัตโนมัติ จะพบว่ายามาฮ่ามีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 53% ตามมาด้วยฮอนด้า 44% และซูซูกิ 2% ส่งผลให้ยามาฮ่ากลายเป็นเจ้าตลาด และตีตื้นยอดขายรวมได้อย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่ง กรณีศึกษา แม้ว่าก่อนหน้านี้ ค่ายเบอร์หนึ่งอย่าง "ฮอนด้า" เองเคยออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดว่าไม่มีนโยบายเอารถ ประเภทนี้มาทำตลาดอย่างแน่นอน แต่ผลความสำเร็จของ "ยามาฮ่า" ทำให้ทั้ง "ฮอนด้า" และ "ซูซูกิ" ต้องขอเกาะกระแส "เรโท" ด้วย ข่าวแว่วว่าค่ายฮอนด้า ซุ่มศึกษาตลาดมานานพอสมควร แต่ช่วงที่ซุ่มศึกษา ก็ปล่อยให้ "ยามาฮ่า" กวาดยอดแบบผูกขาดไว้คนเดียวมาตลอด 3 ปี
ความร้อนแรงของ "เรโทฟีเวอร์" เดือดปุดๆ ขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันนี้ "ซูซูกิ" ขอส่งรถจักรยานยนต์ออโตเมติกแนวเรโทสไตล์อย่าง "เจลาโต้" ออกสู่ตลาด ด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์ที่ย้อนยุค ผสานกับความทันสมัย เก๋ไก๋ ของรถคูลๆ คันนี้ จะช่วยให้ยอดขายของซูซูกิที่อยู่ในช่วงขาลง ดีดกลับมียอดขายเปลี่ยนเป็นขาขึ้นกับเขาบ้าง
ภายใต้แนวคิดรถต้นแบบ 2 รุ่นมารวมกัน คือ "ซูซูกิเจลลี่" และ "ซูซูกิลาเต้" มาผสมไว้ด้วยกันจนออกมาเป็นรถ"เจลาโต้" คันนี้ ส่วนแผนการรุกตลาด ของ "เจลาโต้" นั้น ซูซูกิเตรียมจัดโรดโชว์ทั่วประเทศไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ โดยเริ่มต้นเดินสายจากกรุงเทพฯไปยังหาดใหญ่, เชียงใหม่, โคราช, พัทยา และปิดท้ายด้วยกรุงเทพฯ
งานครั้งนี้ ซูซูกิยังได้ส่ง "นิชคุณ" พรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดร่วมนำพาความสนุก ความสดใสของ "เจลาโต้" ไปให้ลูกค้าทั่วประเทศ ภายใต้เป้าหมายยอดขายที่ 5,000-6,000 คันต่อเดือน
จะเห็นได้ว่า ตลอดช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่าน ค่ายซูซูกิเองได้พยายามเดินหน้าสร้างแบรนด์และปรับปรุงโชว์รูมร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่จะผลักดันให้ยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดขยับเพิ่มอันดับขึ้น
ขณะที่ค่ายฮอนด้าก็เกาะกระแส "เรโทสไตล์" เช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็เริ่มมีการสร้างกระแสให้กับ "ฮอนด้าสกู๊ปปี้" กัน เห็นได้จากทีเซอร์ภาพยนตร์โฆษณาสั้นๆ ผ่าน หน้าจอ ขณะเดียวกันก็มีการสื่อสารให้เห็นถึงความเป็นมาของรถรุ่นใหม่ว่ามีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี 1992 ชนิด ที่เรียกว่า "ฮอนด้า" ขอออกตัวแบบแรง ชี้ให้เห็นชัดๆ ว่า "สกู๊ปปี้" คันนี้มิใช่ผู้ตามแต่อย่างใด เห็นได้จากพัฒนาการที่มีมาอย่างยาวนานนั่นเอง สำหรับ "สกู๊ปปี้" คันนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "โค้งมน น่ารัก สนุก" ไปกับระบบหัวฉีด PGM-FM กับความสนุก มันส์ รู้กัน ฟันยูไนเต็ด
ใส่กันแรงๆ แบบนี้...คงต้องติดตามกันต่อว่า ความเป็นเจ้าตลาดบวกกับการสร้างกระแสจุดพลุให้กับรถคันนี้ โดยถ่ายทอด ผ่านพรีเซ็นเตอร์ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" และ "แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา" พร้อมทั้งเตรียมเดินสายสร้าง กระแสผ่านเสียงเพลง ด้วยการเข้าไปเป็น ผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตที่มีศิลปินชื่อดัง อาทิ โมเดิร์นด็อก, บิ๊กแอส, ที-โบน ที่จะเดินสายไปยัง 4 จังหวัด 4 ภูมิภาค คือชะอำ, เชียงใหม่, เขาใหญ่ และกระบี่ เช่นกันจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
เมื่อ 3 ค่ายยักษ์ประกาศตัวพร้อมที่จะวิ่งสู้ฟัดกันใน "เซ็กเมนต์" นี้ แน่นอนเจ้าตลาดอย่าง "ยามาฮ่า" ก็คงต้องเตรียมไม้เด็ดรับน้องใหม่ทั้ง "ฮอนด้า" และ "ซูซูกิ" ไว้เป็นอย่างดี "ยามาฮ่า" คงจะอยู่นิ่งไม่ได้และโดยวิสัยของ "ยามาฮ่า" ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนร่วมกับกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าภาพการแข่งขันในสมรภูมิของรถจักรยานยนต์ "เรโทสไตล์" จะสนุกและขับเคี่ยวกันไม่น้อยไปกว่าสมรภูมิการแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวม
ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติ
Tidak ada komentar:
Posting Komentar